ปราสาท "Smoke House" เขาใหญ่

Kao Yai: Smoke House

รีวิวนี้จะพาเพื่อนๆมาทานอาหารสุดหรูที่สโมคเฮาส์หรือบ้านรมควัน ณ เขาใหญ่กันจ้า.. 

Smoke House เป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรป รูปทรงปราสาทตั้งตระหง่านงดงาม เห็นเด่นชัด อยู่บนถนนธนะรัชต์ค่ะ

ด้านหน้าสวยงาม ยิ่งใหญ่จริงๆ

เรายืนอยู่ด้านบนของปราสาท มองลงมาจะเห็นเป็นลานกว้างด้านหน้า และลานจอดรถทั้งด้านหน้าและด้านข้างค่ะ

มาดูด้านในกันบ้าง การตกแต่งก็ยังคงความเป็นปราสาทอยู่ค่ะ ตกแต่งได้มีมนต์เสน่ห์มากๆ

มีเค้กหลากหลายชนิดให้ทานหลังอาหารด้วยนะคะ

เดินเข้ามาในโซนของห้องอาหารกันบ้าง โซนนี้จะโดดเด่นไปด้วยตู้โชว์ที่มีไฟเทียมที่ลุกระอุอยู่ตลอดเวลา

มีดนตรีเคล้าคลอให้ฟังตามช่วงเวลาด้วยนะคะ ได้อารมณ์ในการทานอาหารจริงๆ คนในคณะเรา(คนต่างชาติ)ได้ขอเพลงที่เค้าอยากฟังด้วย นักร้องก็จัดให้ได้ทุกเพลงเลยล่ะค่ะ เค้าเก่งมากๆเลย ร้องได้หลายเพลง ร้องเพราะอีกต่างหาก คนขอเพลงก็ถูกใจใหญ่เลย

อาหารที่เราสั่งมาทานก็ไม่ใช่น้อย เราสั่งกันมาหลายอย่างมากค่ะ สั่งๆๆอย่างเดียว ตอนเสริ์ฟมาก็เลยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง เฮอะๆๆ จานนี้น่าจะเป็นสเต็กเนื้อนะคะ

ส่วนจานนี้น่าจะเป็นซี่โครงหมูย่าง (จริงๆจะมีชื่อที่ไพเราะกว่านี้นะ แต่เราจำไม่ได้ ขออภัยๆ)

พิซซ่าจานใหญ่ๆค่ะ

และอะไรอีกมากมาย ทั้งขาหมูรมควัน ซีซ่าร์สลัด ฯลฯ

มาดูโซนด้านหลังของปราสาทกันบ้าง โซนด้านนอกก็มีดนตรีสดเล่นให้ฟังด้วยเช่นกันค่ะ จริงๆตอนที่เรามาโต๊ะทุกโต๊ะก็แทบเต็มแล้วนะ แต่ที่เห็นโล่งๆแบบนี้เพราะฝนตกค่ะ ดังนั้นคนที่นั่งอยู่ก็เลยต้องย้ายมานั่งด้านในปราสาทกัน

ถึงฝนกำลังตกพร่ำๆ เราก็ยังเดินออกมายืนถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพมาให้เพื่อนๆชาวพาทัวร์ได้ดูกัน รูปนี้เป็นด้านหลังของปราสาทค่ะ

การมาทานอาหารที่บ้านรมควัน (Smoke House) แนะนำเพื่อนๆให้โทรมาจองโต๊ะกันก่อนนะคะ วันที่เราไปจริงๆเราโทรมาจองแล้ว แต่พนักงานบอกว่าให้ Walk in เข้ามาเลย เพราะวันนี้คนไม่น่าจะเยอะ แต่ที่ไหนได้ คนเยอะมากเลยค่ะ ยังดีที่ยังมีโต๊ะใหญ่ว่างอยู่โต๊ะนึงเราก็เลยรีบนั่งก่อนที่ฝนด้านนอกจะตก ไม่งั้นไม่มีที่แน่ๆ 

ส่วนเรื่องราคาอาหาร เราว่าไม่แพงเลยนะคะ อาจจะเพราะเราไปกันหลายคน ได้ทานหลายอย่างแถมยังสั่งเบียร์ฮูการ์เด้นแก้วใหญ่อีกหลายแก้ว บิลออกมาเฉลี่ยต่อคนไม่เท่าไหร่เองค่ะ เราให้ 100 คะแนนเต็มเลยนะคะสำหรับที่นี่ ทุกอย่างโอเคหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหาร ราคา การบริการ ความสะดวกสบาย และบรรยากาศค่ะ

เรียบเรียงโดย

J.T.

รีวิว ไร่องุ่น PB Valley เขาใหญ่

PB Valley : Kao Yai

พาทัวร์ทริปนี้จะพาเพื่อนๆไปทัวร์เขาใหญ่ ณ ไร่องุ่น PB Valley ค่ะ พร้อมกันแล้วตามมาเลย..

สำหรับไร่องุ่น PB Valley จะมีแพคเกจในการเที่ยวชมด้วยนะคะ ซึ่งมีเวลาหลายช่วงต่อวัน รายละเอียดอื่นๆดูได้จากเว็ปไซด์ของทางไร่ได้เลยค่ะ http://www.khaoyaiwinery.com กลุ่มเรามากันหลายคนดังนั้นจึงต้องโทรมาจองรอบก่อน มาถึงแล้วก็เข้าไปที่เคาน์เตอร์ของทางไร่ได้เลย

นี่เป็นรถที่จะพาพวกเราชมรอบๆไร่ค่ะ

จะมีไกด์คอยบรรยายสิ่งต่างๆที่อยู่สองข้างทางตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ

ไร่กว้างขวางมากจริงๆ ตามข้างทางก็จะปลูกพืชผักต่างๆมากมาย

รถพาเรามาถึงโรงทำไวน์ของทางไร่ ซึ่งพี่ไกด์จะคอยบรรยายวิธีการทำไวน์ต่างๆอย่างละเอียด สำหรับห้องนี้น้ำองุ่นจะถูกบ่มด้วยถังไม้โอ๊ค เดินเข้าไปจะได้กลิ่นไวน์ตลบอบอวนไปทั่ว

ห้องถัดไปจะเป็นวิธีการบ่มน้ำองุ่นในถังไม้และถังสแตนเลส

ส่วนห้องนี้จะเป็นห้องบรรจุภัณฑ์

หลังจากพี่ไกด์ได้พาเราเที่ยวชมโรงงานทำไวน์แล้ว เราเดินออกมายังห้องโถงเพื่อที่จะลองชิมไวน์ของที่นี่กัน ซึ่งไวน์ที่จะนำมาชิมจะมีด้วยกัน 4 แบบ ดังรูปค่ะ

มีแครกเกอร์และชีสสำหรับกินไปจิบไวน์ไปด้วยนะคะ

เริ่มชิมจากขวดแรกไปจนถึงขวดสุดท้าย ทุกคนก็จะดูหน้าแดงระเรื่อยๆ รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เมานิดมึนหน่อย เพลินเลย

จุกไม้โอ๊คจากไวน์ขวดต่างๆที่นำมารินให้นักท่องเที่ยวชิม ถูกวางประดับไว้บนถังไม้โอ๊คสีแดง

ตรงนี้เป็นตู้โชว์ไวน์จากไร่ PB Valley ค่ะ

จากนั้นเราก็กลับมานั่งรถ เพื่อไปเที่ยวชมไร่องุ่นของที่นี่ค่ะ จะเข้าไปชมในเต็นท์ไหนก็ได้เลยนะคะ

เข้ามาแล้วเจอภาพแบบนี้... องุ่นกำลังออกผลเต็มไปหมดเลย

เยอะจริงๆ สุดลูกหูลูกตาเลยล่ะค่ะ

เห็นแล้วอยากเอาปากงับจริงๆเลย เฮอะๆๆๆ 

 หลังจากเที่ยวชมรอบๆไร่จนทั่วแล้ว เรามาแวะชมพื้นที่รอบๆจุดซื้อตั๋วกันดีกว่า ซึ่งทางด้านหลังจะเป็นห้องอาหารของที่นี่

ด้านหลังของห้องอาหาร สามารถเดินออกไปชมวิวได้ด้วย

ด้านหลังก็เป็นพื้นที่โล่งๆและมีลำธารตัดผ่าน ดูสบายตามากๆ

หันกลับมาทางห้องอาหารแล้วจะได้ภาพนี้

ที่ PB Valley มีห้องสำหรับเลือกซื้อของฝากด้วยนะคะ ผลิตภัณฑ์ก็ทำมาจากไร่นี่แหละค่ะ

เราติดใจไวน์ของที่นี่ ก็เลยซื้อกลับมาเป็นของฝากด้วยล่ะค่ะ

สำหรับการเที่ยวชมไร่องุ่น PB Valley เราว่าคุ้มสุดคุ้มเลยนะคะ ได้ทั้งสาระและความรู้ต่างๆมากมาย เพื่อนๆคนไหนยังไม่เคยมา ถ้าได้มาเขาใหญ่อย่าลืมแวะมาเที่ยวชมที่นี่ได้นะคะ

เรียบเรียงโดย

J.T.

หนีเห่า "เซี่ยงไฮ้" ตอนที่ 1

ทริปเซี่ยงไฮ้แบบงงๆ ตอน "ตามเค้ามา" เฮอะๆๆ

มาเที่ยวในขณะที่ จขกท ป่วย ก็เลยไม่ค่อยได้เที่ยวอย่างเต็มที่เท่าไหร่ ว่าแล้ว... มาดูกันดีกว่า..

ทริปตอนที่ 1 จะรีวิวดังนี้

1. โรงแรมแมนฮัทตัน บิสิเนส (Manhattan Business Hotel)

2. ชมวิวตอนกลางวันที่เดอะบัน (The Bund)

3. เดินเล่นยามเย็นที่ถนนคนเดินนานกิง

โรงแรมแมนฮัทตัน บิสิเนส อยู่ใกล้กับเดอะบันกับถนนคนเดินนานกิงมากเลยล่ะค่ะ

ด้านหน้าโรงแรมเป็นเช่นนี้

มาดูในส่วนของห้องพักบ้างค่ะ ห้องจะไม่มีหน้าต่าง ขนาดห้องกำลังพอดีค่ะ

ห้องน้ำก็ไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไปค่ะ

มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ไฟเพดานแบบกลมใหญ่ๆ ทำให้ห้องนี้ดูหว้างขึ้นเลยล่ะค่ะ

หลังจากเช็คอินเสร็จ เดินออกจากโรงแรม มาสะดุดกับของกินเล่นที่สองสามีภรรยายืนขายอยู่ข้างถนน เราก็เลยลองซื้อมากินดู

แป้งกลมๆที่ค่อยๆย่างจนได้ที่ จากนั้นยัดใส้ต่างๆลงไป จะบอกว่าอร่อยมากๆเลยล่ะค่ะ

แต่เนื่องจากเราอิ่มไม่พอ ก็เลยแวะทานอาหารแถวๆโรงแรมร้านนี้ค่ะ

ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่สไตล์เซี่ยงไฮ้

และอะไรอีกมากมาย.. รสชาติอาหารถือว่าใช้ได้ค่ะ

อิ่มกันแล้วก็ออกเดินทางไปจนถึงเดอะบัน (The Bund) บรรยากาศอย่างกับไม่ได้อยู่ในเอเชียเลยล่ะค่ะ

ตึกรูปทรงยุโรปต่างๆ ดูยิ่งใหญ่สวยงามจริงๆค่ะ

จุดชมวิวของ The Bund ฝั่งนี้เป็นตึกสวยๆ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นวิวของหอไข่มุก ผู้คนจะมาถ่ายรูปจุดนี้เยอะมากๆค่ะ (ชมหน้าซีดๆของป่วยไปก่อนนะ)

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าเดินเท้าต่อไปยังถนนคนเดินนานกิงค่ะ เห็นของกินเล่นข้างทางอีกและ ไม่แวะไม่ได้ซะแล้ว.. เราว่าของกินข้างทางที่นี่ก็อร่อยไปซะทุกเจ้าเลยนะ

เดินต่อๆ มาถึงถนนนานกิง สีสันสวยงามจริงๆค่ะ ระแวกโรงแรมที่เราพัก ตึกจะเป็นทรงและสีสันแบบนี้ซะส่วนใหญ่ค่ะ

มีรถพ่วงคันเล็กๆให้นั่งจากต้นซอยถึงท้ายซอยด้วยนะคะ แต่เราเลือกเดินค่ะ อิอิ

คนเยอะจริงๆ แถวนี้จะมีร้านค้าต่างๆมากมาย และที่สำคัญมีร้านขายของฝากจำพวกขนม หมูแผ่น หมูหยองอยู่ด้วยนะคะ

เดินกันจนเมื่อยแล้ว เราก็หาร้านอาหารร้านหนึ่งซึ่งมีงิ้วให้ดูด้วย (ขออภัยไม่ทราบชื่อ) เพราะคนพาไปดันหลง หาร้านตั้งนาน แต่ในที่สุดก็หาเจอค่ะ 

อาหารร้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกของกินกับแกล้มมากกว่า 

อาหารแต่ละอย่างจะเสริฟมาในจานเล็กๆทั้งนั้นเลย 

แต่เค้าทำน่าทานมากเลยค่ะ รสชาติก็ใช้ได้

ซูมๆ

ทานเสร็จเราก็กลับโรงแรมกัน พรุ่งนี้จะพาไปไหนติดตามกันต่อใน หนีเห่า "เซี่ยงไฮ้" ตอนที่ 2 นะคะ