Translate

25560131

TAI O (HongKong)

ไท้โอ(Tai O) ณ ฮ่องกง


ไท้โอนั้น เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์ของฮ่องกง เป็นอีกด้านหนึ่งที่ไม่มีตึกสูงๆไม่มีคนแออัด ไม่มีความวุ่นวาย จะมีก็แต่ความเป็นอยู่ที่สงบ เต็มไปด้วยธรรมชาติ 



หลายๆที่จะนำสินค้าที่ได้จากหมู่บ้านแห่งนี้มาขาย ได้บรรยากาศจริงๆค่ะ




สินค้าที่มีชื่อของที่หมู่บ้านนี้คือของที่ได้มาจากทะเลและกะปิค่ะ จะเห็นได้จากร้านค้าต่างๆนำออกมาบรรจุใส่ขวดขายหลายขนาดให้เลือกซื้อกัน



 ร้านนี้ขายของสดค่ะ ดูจากปูที่พี่ผู้ชายถือสิค่ะ ตัวใหญ่มาก..ก..ก 




ส่วนร้านนี้เป็นร้านอาหารค่ะ น่ากินเชียว...



อาเจ๊ 2 คนนี้ขายปลาหมึกย่างค่ะ อากาศหนาวๆแบบนี้ขอลองหน่อยล่ะกัน .. อร่อยดีนะคะเหมือนปลาหมึกย่างบ้านเราแต่ไม่มีน้ำจิ้ม (กินไปคิดถึงน้ำจิ้มไป อิอิ)



ร้านนี้ขายขนมค่ะ เห็นแล้วต้องหยุดลองเลย ยืนเข้้าแถวสั่งไม่นานก็ได้มาค่ะ




หน้าตาออกมาแบบนี้ค่ะ จะบอกว่าอร่อยมาก..ก..ก หมูสับที่ถูกหมักอย่างดีทานกับผักและแป้งนุ่มๆร้อนๆที่ห่อไว้ รสชาติเข้ากันได้ดีทีเดียวค่ะ



ร้่านนี้ขายพวกของย่างของทอด แล้วลุงคนนั้นก็ทำขนมอะไรซักอย่าง จขกท.ไม่ได้กินค่ะ เพราะเห็นแถวแล้วคนเยอะเกินไป เราก็เลยหาร้านอื่นๆแทน




เดินหาของกินไปเรื่อยๆชมบรรยากาศคนในหมู่บ้าน บังเอินเจอคนเชิดสิงโตด้วยค่ะ 



เดินมาเรื่อยๆแล้วมาสะดุดเข้ากับร้านกาแฟร้านนึงค่ะ ดูหน้าร้านจะธรรมดาๆ แต่เห็นคนเยอะพอประมาณ เราอยากจะหาที่นั่งจิบกาแฟอยู่แล้วก็เลยลองเข้าร้านนี้ค่ะ รอคิวซักพักก็ได้โต๊ะนั่ง ระหว่างที่เดินเข้ามาในร้าน รู้สึกว่าร้านนี้น่ารักดีค่ะ ทั้งการตกแต่งทั้งวิธีการทำและทั้งพนักงาน



นับว่าเป็นร้านน่านั่งทีเดียวค่ะ ไม่ง่ายที่จะเห็นร้านชิวๆแบบนี้ในฮ่องกง



หลังร้านจะเป็นโซนที่จัดโต๊ะสำหรับให้ลูกค้าได้นั่งจิบกาแฟริมน้ำ มองความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้าน พื้นหลังเป็นภูเขาลูกใหญ่ๆ ดื่มดำกับบรรยากาศแบบนี้ถือว่าคุ้มมากจริงๆค่ะ



ที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะคะ เราก็สั่งโลด..



มาแล้ว.. กาแฟหอมกรุ่นกับบรรยากาศหนาวๆโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ไร้มลพิษ



เราใช้เวลาจุดนี้ซักพักใหญ่ๆเลยล่ะค่ะ คนก็เริ่มเยอะแล้วด้วย




พอหายเหนื่อยแล้วเราก็ออกเดินทางหาของกินต่อ อิอิ 



ทริปนี้ถือเป็นทริปพักสมอง ผ่อนคลาย หลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมืองใหญ่ ได้มาเห็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีความเป็นอยู่อย่างสงบ เราเองก็สงบไปด้วย ขอบคุณสำหรับทริปดีๆแบบนี้ แล้วอยากจะแชร์ให้กับเพื่อนๆได้มาลองสัมผัสนะคะ 



NongPing 360 HONGKONG

Mini Review อีกแล้วค่า... กระทู้นี้จะพาไปเที่ยวที่หนองปิง 360 องศา ณ ฮ่องกง นั่งกระเช้าตามมาเลยค่ะ

กระเช้าจะมี 2 แบบ ทั้งแบบที่พื้นล่างธรรมดาและพื้นล่างเป็นกระจก กระเช้านึงสามารถนั่งได้ประมาณ 6 คน แต่ถ้ากลุ่มไหนมาน้อย ในช่วงพีค อาจจะได้นั่งกระเช้าเดียวกับคนอื่นนะคะ


จะเห็นวิวของสนามบินเช็คแลปก๊กชัดเจนมากเลยล่ะค่ะ



กระเช้าจะพาเราไปเรื่อยๆผ่านภูเขาแต่ละลูก วิวสวยใช้ได้เลย เราก็ชมวิวไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ก็ถึงค่ะ

พอลงจากกระเช้ามาแล้ว เราต้องเดินเท้าเข้าไปอีกจึงจะถึงพระองค์ใหญ่ แต่ระหว่าง 2 ข้างทางจะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมาย


ร้านนี้ขายของจิ๋วค่ะ 


เล็กนิดเดียวจริงๆ


ชมของข้างทางกันเรียบร้อยแล้ว เราเดินมุ่งหน้าสู่องค์พระใหญ่กัน อยู่ข้างหน้านู้น..


ในที่สุดเราก็ถึงแล้วค่ะ เห็นบันไดแล้วเราก็ทำใจแป๊ปนึง เฮอะๆๆ มันยาวจริงๆค่ะ แต่เราก็เดินไปแวะถ่ายรูปไป จะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป



ด้านบนสามารถเดินรอบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ 360 องศาตามชื่อเลยค่ะ บรรยากาศบนนี้เย็นสบาย ลมโชยตลอด จขกท.เคยมาช่วงหน้าหนาว โดนลมเย็นแรงๆไป ตัวแทบแข็งเลยล่ะ.. เฮอะๆๆ




ลงมาดูฝั่งตรงข้ามของพระพุทธรูปองค์ใหญ่กันบ้าง ประตูทางเข้าใหญ่จริงๆค่ะ

เข้ามาแล้ว... เป็นศาลเจ้านี่เอง มีกระถางธูปอันใหญ่โตตั้งอยู่ตระหง่านอยู่ตรงหน้า 


ไหว้พระอธิฐานขอพรแล้วก็เดินเข้าไปชมศาลเจ้าข้างในค่ะ


เดินชมจนทั่วแล้ว เราก็นั่งกระเช้ากลับที่เดิมค่ะ

สำหรับหนองปิง 360 องศา คงต้องใช้เวลาประมาณครึ่งวันในการมาเที่ยวที่นี่นะคะ และหลังจากการเที่ยวชมที่นี่เสร็จแล้วสามารถช้อปปิ้งได้ที่ City Gate Outlet ได้ด้วยค่ะ หวังว่ากระทู้นี้มีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ







25560127

มินิรีวิว โรงแรมเวเนเซี่ยน มาเก๊า

รีวิวนี้จะเน้นบรรยากาศภายในห้องของเวเนเซี่ยนเป็นหลักนะคะ ซึ่งทุกห้องของโรงแรมนี้จะเป็นของสวีททุกห้อง พร้อมแล้วตามมาเลย..



หลังจากออกจากลิฟท์มาแล้ว เดินหาหมายเลขห้องตามที่เราได้รับมา



เปิดเข้ามาจะเห็นเตียงคิงไซน์สองเตียง (ซึ่งจริงๆเรานอนกันเตียงล่ะ 3 คนเลยล่ะค่ะ อิอิ) ห้องกว้างขวาง หรูหรามาก..ก..ก




ส่วนนี้จะเป็นส่วนของมุมนั่งเล่น แค่ลงทางต่างระดับที่ข้างๆเตียงเองค่ะ




มุมชากาแฟค่ะ มีชาให้เลือกหลายชนิดเลย ชอบมักๆ




มาดูห้องน้ำกันบ้าง เห็นแล้วต้องร้องโอ้โห... อะไรจะหรูหราขนาดนี้..!!  




 เปิดประตูมาจะเป็นห้องใหญ่ๆโล่งๆ มีมุมโต๊ะเครื่องแป้ง อ่างล้างหน้า 2 อ่าง ด้านซ้ายและขวาถูกแยกออกเป็นสัดส่วน




มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน




ด้านนึงจะเป็นอ่างอาบน้ำ และตู้กระจกแบบ shower




ส่วนอีกด้านจะเป็นห้องสุขา ห้องน้ำที่นี่ประตูจะไม่สามารถล๊อคได้ ดังนั้นถ้าจะใช้ห้องน้ำทุกครั้ง จะต้องบอกคนที่พักด้วยกันให้รับรู้กันทั่วจะได้ไม่มาเห็นของดีเข้า 555+



เจ้าของกระทู้จะแถมภาพบริเวณภายในโรงแรมให้เล็กน้อย.. การตกแต่งโรงแรมนี้นอกจากความยิ่งใหญ่ หรูหรา สง่างามแล้ว ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดคือที่นี่ไม่เคยมืดเลย.. จะมืดได้ยังไงกันค่ะ ก็บนเพดานของโรงแรมเป็นแบบจำลองทองฟ้าในตอนกลางวันตลอดเวลา เคยมาเที่ยวที่นี่แรกๆ กำลังเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง พอเค้ามาโรงแรมตาสว่างทันทีเลยล่ะค่ะ นี่เที่ยงคืนแล้วฟ้ายังสว่างสดใสอยู่เลยเหรอเนี่ย ฮุฮุ..





บริเวณนี้เป็น Food Court ค่ะ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ ณ ลานกว้างๆของเมืองเวนีสยังไงยังงั้น



ส่วนบริเวณนี้เป็นการจำลองคลองเวนีสค่ะ มีเรือกอนโดลาไว้คอยให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการล่องไปตามน้ำด้วย ในช่วงกลางวันพนักงานที่ภายเรือจะร้องเพลงไปพายไป แล้วบริเวณโดยรอบก็จะมีกิจกรรมหรือการโชว์อะไรเล็กๆน้อยๆให้ผู้คนผ่านไปผ่านมาได้ชมกันตลอดทาง บรรยากาศคึกคักเชียวค่ะ



ถัดมาดูส่วนนี้กันบ้าง ด้านบนจะเป็นร้านขายของต่างๆ ส่วนด้านล่างนั้นเป็นคาสิโนค่ะ เราถ่ายเก็บมาได้แค่นี้เพราะที่คาสิโนไม่สามารถถ่ายได้ค่ะ



ภาพนี้เป็นภาพด้านนอกโรงแรมอีกด้านนึงค่ะ




ช่างเป็นโรงแรมที่หรูหรา สง่างาม อะไรเช่นนี้ มีที่เที่ยวที่เดินเล่นมากมาย มีกิจกรรมตลอดปี ใครที่มามาเก๊าต้องมาสัมผัสความยิ่งใหญ่ ตระการตาของที่นี่ให้ได้นะคะ ตอนนี้ก็ขอจบมินิรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ





Review by J.T.


25560126

คอลัมน์ ฮ่องกง “บ้าน” หลังที่สอง




ฮ่องกงเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีความเติบโตทางเศรษฐกิจสูง จากประสบการณ์มากมายที่ได้พบเจอ เมื่อย่างก้าวเข้ามาอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ จะขอเขียนเพื่อเล่าสู่ให้เพื่อนๆได้อ่านผ่านทุกตัวหนังสือในคอลัมน์นี้เพื่อให้เห็นมุมมองอีกมุมนึงที่แตกต่างจากสังคมไทยเรา

สิ่งแรกเลยที่ทำให้รู้สึกแปลกใจในความเป็นคนชาติฮ่องกงคือ คนฮ่องกงจะไม่ยอมรับตัวเองว่าเป็นคนจีนเด็ดขาด แม้จะมีเชื้อสายจีน แต่เค้าก็จะบอกได้เต็มปากว่าเค้าเป็นคนฮ่องกง ไม่ใช่คนจีน เพราะเค้ามีความแตกต่างจากคนจีนอย่างมาก(ความคิดของคนฮ่องกง) ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา มารยาท และที่สำคัญความสะอาด ยกตัวอย่างเช่น เวลาไปทานอาหารตามที่ต่างๆ จะมีกาน้ำร้อนมาตั้งให้เรา และชามใบใหญ่ๆ ไว้สำหรับให้ลูกค้าล้างอุปกรณ์พวกถ้วย ตะเกียบ ช้อน แก้วน้ำ เพื่อสุขอนามัยที่ดี 

เรื่องความสะอาดคนที่นี่จะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ก่อนออกจากบ้านจะต้องมีซองกระดาษทิชชูติดไว้ที่กระเป๋ากันทุกคนเพราะกระดาษทิชชูมีประโยชน์มาก ไม่ว่าจะใช้ตอนไอหรือจาม ใช้ในห้องน้ำสาธารณะ ในร้านอาหาร หรือไว้เช็ดสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งถ้าใครไม่ได้พกแสดงว่าไม่ใช่คนฮ่องกงกันเลยทีเดียว   
การกินของคนฮ่องกง ยังมีการผสมผสานวัฒนธรรมจีนอยู่บ้าง คือ กินให้เป็นยา โดยส่วนใหญ่คนที่นี่จะทำน้ำซุป โดยการต้มเป็นเวลาหลายๆชั่วโมง ในตัวซุปจะมีสารอาหารที่มีคุณค่า ทุกบ้าน ทุกครอบครัว หรือแม้กระทั่งตามร้านอาหารต่างๆ ก็จะมีการต้มซุปเพื่อทานก่อนอาหารเสมอ แม้กระทั่งต้มยำกุ้งบ้านเรา เค้ายังตักน้ำต้มยำใส่ถ้วยแล้วยกซด จะไม่ทานแบบราดข้าวอย่างคนไทยเรา การกินอาหารไทย อย่างพวกลาบ น้ำตก คนที่นี่จะเอาลาบหรือน้ำตกห่อใส่ใบผักก่อนที่จะเอาเข้าปาก แล้วก็บอกกับคนอื่นๆว่า คนไทยกินเค้ากินกันแบบนี้ (ติต่างเองซะด้วย)

ด้วยความแตกต่างด้านภาษา จึงมีอะไรน่ารักๆในเสียงที่ออกมาแล้วดันไปคล้องจองกับความหมายของอีกภาษาหนึ่งให้ขบขันกัน อย่างแม็คโดนัลด์ คุณรู้หรือไม่ว่าคนฮ่องกงเรียกว่า “มันต้องโด่” ฮ่าๆๆ




ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีตึกสูงระรานตา ที่ดินที่นี่ก็แพงไม่ใช่น้อย ดังนั้นแทบจะไม่ได้เห็นบ้านเดี่ยวในฮ่องกงมากนัก เพราะใครที่มีบ้านเดี่ยวเป็นของตัวเอง คนนั้นต้องเป็นมหาเศรษฐีกันเลย แม้กระทั้งตึกสูงที่คนที่นี่เรียกว่าแฟลต ก็ยังมีราคาแพงมากเช่นกัน แต่ภายในห้องเล็กๆของทุกบ้านก็จะมีการจัดสรรให้ทุกบ้านต้องมีห้องหลักคือ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอนและห้องน้ำ มากน้อยแล้วแต่ขนาดของบ้านนั้นๆ การจัดการแฟลตก็ถึอว่าจัดการได้ดี ทุกแฟลตไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ด้านล่างของตัวตึกจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าอยู่ทุกที่ ใครที่ไม่มีการ์ดหรือรหัสผ่านก็ไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องขโมยหรือโจรเลย
แต่ก็ใช่ว่าแฟลตจะดีเสมอไป แฟลตที่แออัดก็มีเช่นกัน สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีกิน ก็จะอยู่กันอย่างคับแคบห้องเล็กๆอยู่กันหลายคน หรือแม้กระทั้งพื้นที่แค่เตียงเดียวมีกรงล้อมรอบสำหรับบางคนนั่นคือบ้านแล้ว... 

การคมนาคมของที่นี่จะเข้าถึงทุกที่ที่มีคนอยู่ ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ก็จะมีรถเมล์มารับไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ถ้าอาศัยอยู่บนภูเขาหรือที่ไกลจากตัวเมืองรถที่เข้าถึงก็เป็นรถมินิบัสแทน รถทุกคันจะเคารพกฏจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่เคยเห็นรถฝ่าไฟแดงเลยแม้แต่คันเดียว คนข้ามถนนก็เช่นกันยังต้องรอสัญญาณไฟสำหรับคนข้ามให้ขึ้นไฟเขียวก่อนจึงจะข้ามได้ 

จุดป้ายรถเมล์ของที่นี่จะแยกสายและแยกที่กัน เพื่อป้องกันปัญหาการจราจร ดังนั้นเวลาจะขึ้นรถเมล์จะต้องเดินหาป้ายรถที่เราจะขึ้น ซึ่งจะมีหมายเลขปรากฏอยู่ที่ป้ายป้ายนั้นและยังมีรายละเอียดบอกสถานที่ที่รถสายนั้นๆไปอีกด้วย มีทั้งภาษาจีนและอังกฤษให้ดูซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่ไม่คุ้นทางรถเมล์ส่วนใหญ่จะเป็น 2 ชั้น จะมีชั้นเดียวบ้างในสายที่ไปสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนอยู่เยอะ ใครที่มาเที่ยวฮ่องกงลองขึ้นไปนั่งชั้น 2 ด้านหน้าสุดดู แล้วคุณจะรู้ว่ามันสนุกแค่ไหน

เรื่องสภาพอากาศของที่นี่จะมี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และ ฤดูใบไม้ผลิ

พอถึงฤดูหนาวทีไร ฮ่องกงจะมีสีสรรไปด้วยแสงสี ที่ตกแต่งตามบ้านเรือนและท้องถนน เพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ ไปจนถึงวันตรุษจีน ทุกคนจะใส่ชุดกันหนาว รองเท้าบูท หมวกไหมพรม และผ้าพันคอ ซึ่งเป็นแฟนชั่นที่ดูดีทีเดียว กิจกรรมที่คนฮ่องกงมักทำรวมกันกับเพื่อนๆ ช่วงฤดูหนาวนี้คือการออกจากบ้านไปย่างบาร์บีคิวกัน เป็นกิจกรรมที่เหมาะมากกับบรรยากาศหนาวๆเช่นนี้ ได้ทานอาหารบนเตาถ่านอุ่นๆได้พูดคุยกับเพื่อนๆและครอบครัว หรือจะต้ม hot pot กินกันที่บ้านก็อบอุ่นไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีการแลกของขวัญกันในช่วงวันคริสต์มาสและวันปีใหม่อีกด้วย ดังนั้นช่วงเวลานี้จะคึกคักรื่นเริงกันทุกปี


ส่วนฤดูร้อนคนที่นี่จะนิยมหากิจกรรมเล่นบนชายหาดกัน และในที่นั่นจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ใส่ชุดว่ายน้ำสีสันต่างๆเต็มชายหาด บ้างก็อาบแดด บ้างก็เล่นกีฬาต่างๆ คนที่นี่จะไม่ทานอาหารบนชายหาดกัน ถ้าต้องการจะทานอาหารจะมีร้านอาหารอยู่ข้างนอกชายหาด ซึ่งสามารถทานได้ที่ร้านอาหารเท่านั้น ดังนั้นชายหาดจึงไม่มีขยะ หลังจากเล่นน้ำทะเลเสร็จ ที่นี่จะไม่มีห้องน้ำไว้อาบน้ำ แต่จะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำรวมกลางแจ้ง และมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิงต่างหาก 

 ที่ฮ่องกงจะพายุไต้ฝุ่นทุกปี ดังนั้นคนที่จะมาเที่ยวที่นี่จำเป็นต้องเช็คสภาพอากาศให้ดี ไม่เช่นนั่นอาจจะหมดสนุกลงได้ เพราะไต้ฝุ่นนั้นจะมีระดับให้ลุ้นอยู่ทุกวินาที ยิ่งเจอพายุหมายเลข 8-10 ทั้งร้านค้าต่างๆจะปิดหรือหยุดทำการกระทันหัน รวมไปถึงการคมนาคมทุกอย่างก็จะหยุดให้บริการเช่นกัน


ฮ่องกงนับว่าเป็นประเทศที่น่าเที่ยวประเทศหนึ่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวมั่นใจได้ในความปลอดภัย ความมีระเบียบ ความสะอาด และยังเหมาะกับคนที่ชอบช้อปปิ้งเลือกซื้อของต่างๆ รวมไปถึงการได้มาสัมผัสกลิ่นอายความเป็นฮ่องกงอย่างแท้จริง  “ฮ่องกงเมืองที่ไม่มีวันหลับไหล”



บทความโดย  J.T.