Translate

25560126

หินดาด รีสอร์ท @ เกาะกูด

เกาะกูดเป็นเกาะที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมาก ทริปนี้เราจองที่พักที่ "หินดาดรีสอร์ท"  รวมแพคเกจทั้ง 3 วัน 2 คืน กรุ๊ปของเรามี ผู้ใหญ่ 6 คน เด็กอายุขวบกว่า 1 คน เป็นทริปแบบครอบครัวค่ะ
เราจองรถตู้จากบริษัท THK transport จากบ้านถึงตราดเลยล่ะค่ะ พนักงานบริการดี รถคันใหญ่ กว้างสบายมากๆค่ะ



ก่อนถึงท่าเรือเราต้องโทรศัพท์ไปถามที่พักก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าเราต้องไปขึ้นเรือ speed boat ได้ที่ท่าเรือไหนพร้อมถามทาง พอเข้ามาถึงจะเป็นเป็นลานจอดรถกว้างๆ จอดรถเสร็จพนักงานก็วิ่งเข้ามาบริการตรวจเช็คกระเป๋าเพื่อที่จะนำกระเป๋าไปลงเรือให้ค่ะ 




เป็นเรือ Speed boat ที่ลำใหญ่ทีเดียว... แต่เรือที่เราต้องลงอยู่ข้่างหลังนู้นแน่ะ เฮอะๆๆ 




ระหว่างที่เรานั่งรอเพื่อให้ถึงเวลาเรือออก (รอนักท่องเที่ยวคนอื่นๆด้วย) ไม่นานก็ได้เวลาออกเดินทาง...
ภายในเรือจัดระเบียบได้ดีทีเดียวค่ะ ที่นั่งเป็นเบาะ แถวนึงมีที่นั่ง 2 ฝั่ง ที่นั่งจะเป็นแถวๆ เหมือนนั่งรถเมล์เลยล่ะค่ะ นั่งสบายไม่ต้องเบียดกับคนอื่น ชอบมาก..ก...ก 




เรือจะไปส่งนักท่องเที่ยวตามรีสอร์ทต่างๆที่อยู่บนเกาะกูด รีสอร์ทของเราอยู่สุดท้ายเลยค่ะ ถือว่าโชคดีนะ เพราะเราจะได้เห็นรีสอร์ทต่างๆไปด้วย น้ำทะเลเป็นสีฟ้าครามอย่างที่เห็นในรูปเลยค่ะ



และแล้วก็ถึง "หิดดาดรีสอร์ท" รีสอร์ทของจะต้องเดินขึ้นสะพานไม้แบบนี้ล่ะค่ะ ธรรมชาติจริงๆ 



มาดูที่พักเราบ้่าง.. แตนแต๊น...!!!
เป็นหลังๆเลยล่ะค่ะ เรามากัน 3 ครอบครัวก็ 3 หลังเลย ด้านหน้าสามารถตากเสื้อผ้าที่เปียกได้ด้วย



มาดูภายในกันบ้าง เตียงกว้างขวาง ตกแต่งเรียบง่ายสบายตาค่ะ



มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน



พอออกมายืนระเบียงบ้าน วิวที่เห็นช่างเป็นภาพที่สดชื่นจริงๆ ที่หินดาดรีสอร์ทจะมีชายหาดอยู่ด้านข้างของรีสอร์ทแบบนี้ล่ะค่ะ  ยืนมองไปคิดไป (จะต้องลงไปว่ายน้ำเล่นให้ได้เลย ฮุฮุ)



แต่เรามาถึงนี้ก็เที่ยงแล้วท้องก็ร้อง ทางที่พักก็ได้เตรียมอาหารไว้ให้เราเรียบร้อยค่ะ เอาให้เต็มที่เลย..



พอกินอิ่มหน่ำสำราญกันแล้ว พี่เจ้าของก็หยิบผลไม้จานใหญ่มากเสริฟต่อ



บรรยากาศบริเวณล็อบบี้ + ห้องอาหาร การบริการที่นี่ดีถึงดีมากเลยล่ะค่ะ เจ้าของมาบริการเอง เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน พี่เจ้าของเสื้อเขียวมาบริการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด และลูกๆของพี่เค้าก็เอาเจ้าหลานตัวแสบไปดูแลให้ระหว่างที่พวกเราทานอาหารกันด้วยค่ะ



นี่เป็นวิวด้านหน้าของรีสอร์ทค่ะ บรรยากาศดีจริงๆ เหมือนอยู่บ้านเลย



มีบอร์ดให้เขียนคำชมต่างๆไว้เป็นที่ระลึก แปะโชว์ไว้ที่บริเวณข้างล็อบบี้ด้วยค่ะ




พอท้องอิ่มก็เริ่มออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อเลย โดยที่ทางเจ้าของรีสอร์ทที่เป็นพี่ผู้ชายขับรถคันนี้ไปส่งเราที่น้ำตกคลองเจ้า ภายในรถก็มีแต่กลุ่มเราและไกด์ตัวน้อย(ลูกของเจ้าของรีสอร์ท)อีก 2 คนติดตามไปด้วย



พอมาถึงทางเข้าน้ำตก เราต้องออกเดินทางค่อนข้างไกลนิดนึงค่ะ ไกด์ตัวน้อยทั้ง 2 คน ชำนาญทางมากเดินดุ่มๆไปตามทาง ส่วนเราต้องค่อยๆเดินไปค่ะ เพราะทางจะเปียกๆลื่นๆต้องคอยระวังเป็นพิเศษ (จะบอกว่าเจ้าของกระทู้ลื่นล้มด้วยล่ะ เฮอะๆๆๆ) เดินมาไม่นานนักก็ได้ยินเสียงน้ำตกแล้ว.. 



ที่น้ำตกคลองเจ้านี้ยังคงความอุดมสมบูรณ์มากมายเลยค่ะ ร่มรื่น สวยงาม ธรรมชาติมากๆ




หลังจากที่เดินทางทั้งทางเรียบ ทางลื่น แล้วยังต้องปีนหินใหญ่ ลัดเลาะไปตามซอกหินต่างๆ ก็เหลือบไปเห็นแอ่งน้ำตกลิบๆแล้วล่ะค่ะ เห็นกันมั้ยๆ



ของที่ติดตัวมา วางไว้ตรงนี้ก่อนล่ะกัน โดดน้ำโลด..ด..ด




น้ำเย็นเจี๊ยบเลยล่ะค่ะ เล่นน้ำกันให้เต็มที่เลย น้ำตกนี้เป็นของเรา..า...า



หลังจากกลับมาจากน้ำตก พวกเรายังสนุกกับการว่ายน้ำกัน เมื่อถึงที่พักปุ๊บก็เดินไปข้างๆที่พักลงไปชายหาดข้างๆ จะมีป้ายรีสอร์ทเล็กๆบอกทางอยู่



เดินลงมาตามบันไดเลย



น้ำทะเลอุ่น สบายตัวมาก.. เราใช้เวลาเล่นน้ำกันทั้งครอบครัวอยู่บริเวณนี้กันพักใหญ่ๆ นานๆทีจะลงทะเลว่ายน้ำเล่นกันพร้อมหน้าพร้อมตา มีความสุขจริงๆ



เราว่ายน้ำเล่นกันจนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ภาพนี้ถ่ายกันก่อนขึ้นไปอาบน้ำบนที่พักค่ะ



หลังจากเล่นน้ำกันเต็มที่ ก็ถึงเวลาอาหารเย็น ครอบครัวพี่เจ้าของรีสอร์ทต่างช่วยกันเตรีียมอาหารให้เราค่ะ ไม่พอเติมได้ตลอด.. พี่ผู้ชายที่เป็นเจ้าของยังเดินมาพูดคุยที่โต๊ะเรา แล้วยังสอนวิธีแกะปูแบบง่ายๆให้เราอีกต่างหาก (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายปู เพราะมัวแต่พยายามแกะปูตามที่ได้เรียนมาอยู่ค่ะ เฮอะๆๆ)



ปลาหมืกย่างตัวโตมาก..ก..ก เห็นแล้วอยากเอามาจิ้มกับน้ำจิ้มแล้วใส่ปากคำโตๆ



ต้มยำรสจี๊ดจ๊าด อาหารทุกอย่างอร่อยทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ พอทานอาหารกินอิ่มแปร้แล้ว เราก็กลับที่พัก หาเกมเล่นกันจนรู้สึกง่วง จากนั้นแยกย้ายกันกลับห้อง นอนพักเก็บแรงไว้ในวันพรุ่งนี้..



อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ มีชา กาแฟ อาหารเช้าแบบง่ายๆ ทานกันเสร็จก็เตรียมตัวไปดำน้ำดูปะการังกันค่ะ




เรือ Speed boat พาเรามาดำน้ำดูปะการังกันที่จุดนี้ค่ะ ทะเลสวยไม่แพ้ทะเลทางใต้เลยล่ะค่ะ



อุปกรณ์พร้อม เสื้อชูชีพพร้อม โดดลงเลย..!!



ปลาเยอะแยะมากมาย หลายสายพันธุ์ พี่คนขับเรือบอกนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติพ่อแม่ลูกให้ดูปลากระเบนที่อยู่ใต้ท้องทะเลด้วย แต่เรามองไม่เห็น (แอบเสียใจนิดๆ)



ปลาไม่กลัวคนเลยค่ะ ว่ายผ่านไปผ่านมารอบๆตัวตลอดเวลาเลย



อย่างกับอยู่ในตู้ปลาขนาดใหญ่ๆ เห็นปะการังเป็นชั้นๆ สวยอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะค่ะ พี่คนขับเรือก็ปล่อยให้เราดำน้ำเล่นให้เต็มที จะออกเรือก็จนกว่าเราจะเป็นคนบอกว่าพอ พี่เค้าถึงจะพาเราไปทานอาหารกลางวันค่ะ



พอเราหิวกันแล้ว ก็บอกพี่เค้าว่าดำน้ำจนเหนื่อยและ พี่คนขับเรือก็พาเรามาแวะทานอาหารกลางวันกันที่เกาะใกล้ๆจุดดำน้ำนี่แหละค่ะ เราทานอาหารกล่อง ผลไม้ ดื่มน้ำ และเล่นน้ำกันบนเกาะเล็กๆนี้ซักพักใหญ่ๆเลยล่ะค่ะ 



น้ำทะเลรอบเกาะนี้ใสมาก..ก..ก เราเล่นกัน ถ่ายวีดีโอ ถ่ายรูป กดชัดเตอร์กันอย่างเมามัน



อีกซักรูป สนุกสนาน 555+ 
หลังจากเล่นจุดนี้กันเสร็จ พี่คนขับเรือก็พาเราไปดำน้ำต่อค่ะ 



 จุดนี้มีหอยเม้นเยอะมาก บนตัวหอยเม้นจะมีจุดสีฟ้าๆด้วยนะคะ ลองสังเกตดูค่ะ


























คลื่นใต้น้ำดันให้ปะการังพริ้วไปพริ้วมา มองแล้วเพลิดเพลินดี ดำน้ำจนจุใจแล้ว เราก็บอกให้พี่คนขับเรือพาเรากับที่พัก เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย





พอกลับมาที่พัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันตาแต่ท้องเราก็ร้องด้วยความหิว พี่เจ้าของก็เลยชงนมเย็นมาเสริ์ฟพวกเราด้วยล่ะค่ะ แต่เราหิวเกินกว่านั้นก็เลยสั่งข้าวกระเพราไข่มาเพิ่ม ทานไปจนหมด พี่เจ้าของบอกว่าจะเอาขนมจีนน้ำยาป่ามั้ยเดี๋ยวตักมาให้ เรารีบตอบรับทันที(ของโปรดนี่น่าจะเหลือเหรอ คริคริ) 



เช้าของวันสุดท้าย Speed boat จะมารับเราตอนเที่ยง ซึ่งเรายังมีเวลาว่างอยู่ หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เราลงมาเดินเล่นริมหาดเก็บบรรยากาศความเป็นธรรมชาติให้เต็มที่ สูดอากาศที่แสนบริสุทธิ์ไร้หมอกควันให้เต็มปอด คิดในใจ "เราจะต้องกลับบ้านแล้วเหรอเนี่ย..."




เดินไปเก็บภาพแสงแดดอ่อนๆไป นี่คือธรรมชาติที่ไม่ได้เติมแต่งแต่อย่างใด



มุมสบายๆบนชายหาดค่ะ ที่เห็นบ้านเป็นหลังๆอยู่ด้านหลังนู้นคือที่พักของเรานั่นเอง




 หลังจากที่ไล่จับปูตามชายหาดกันแล้ว ก็ถึงเวลาต้องเตรียมตัวกลับบ้านกันแล้วล่ะค่ะ


  
นี่คือการพักผ่อน ผ่อนคลาย หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง เป็นช่วงเวลาดีๆประสบการณ์อันสนุกสนาน อบอุ่น มันคือความประทับใจที่ไม่อาจลืมเลือน...




....Review By J.T.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น