ฮ่องกงเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีความเติบโตทางเศรษฐกิจสูง จากประสบการณ์มากมายที่ได้พบเจอ เมื่อย่างก้าวเข้ามาอยู่ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ จะขอเขียนเพื่อเล่าสู่ให้เพื่อนๆได้อ่านผ่านทุกตัวหนังสือในคอลัมน์นี้เพื่อให้เห็นมุมมองอีกมุมนึงที่แตกต่างจากสังคมไทยเรา
สิ่งแรกเลยที่ทำให้รู้สึกแปลกใจในความเป็นคนชาติฮ่องกงคือ คนฮ่องกงจะไม่ยอมรับตัวเองว่าเป็นคนจีนเด็ดขาด แม้จะมีเชื้อสายจีน แต่เค้าก็จะบอกได้เต็มปากว่าเค้าเป็นคนฮ่องกง ไม่ใช่คนจีน เพราะเค้ามีความแตกต่างจากคนจีนอย่างมาก(ความคิดของคนฮ่องกง) ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา มารยาท และที่สำคัญความสะอาด ยกตัวอย่างเช่น เวลาไปทานอาหารตามที่ต่างๆ จะมีกาน้ำร้อนมาตั้งให้เรา และชามใบใหญ่ๆ ไว้สำหรับให้ลูกค้าล้างอุปกรณ์พวกถ้วย ตะเกียบ ช้อน แก้วน้ำ เพื่อสุขอนามัยที่ดี
เรื่องความสะอาดคนที่นี่จะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ก่อนออกจากบ้านจะต้องมีซองกระดาษทิชชูติดไว้ที่กระเป๋ากันทุกคนเพราะกระดาษทิชชูมีประโยชน์มาก ไม่ว่าจะใช้ตอนไอหรือจาม ใช้ในห้องน้ำสาธารณะ ในร้านอาหาร หรือไว้เช็ดสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งถ้าใครไม่ได้พกแสดงว่าไม่ใช่คนฮ่องกงกันเลยทีเดียว
การกินของคนฮ่องกง ยังมีการผสมผสานวัฒนธรรมจีนอยู่บ้าง คือ กินให้เป็นยา โดยส่วนใหญ่คนที่นี่จะทำน้ำซุป โดยการต้มเป็นเวลาหลายๆชั่วโมง ในตัวซุปจะมีสารอาหารที่มีคุณค่า ทุกบ้าน ทุกครอบครัว หรือแม้กระทั่งตามร้านอาหารต่างๆ ก็จะมีการต้มซุปเพื่อทานก่อนอาหารเสมอ แม้กระทั่งต้มยำกุ้งบ้านเรา เค้ายังตักน้ำต้มยำใส่ถ้วยแล้วยกซด จะไม่ทานแบบราดข้าวอย่างคนไทยเรา การกินอาหารไทย อย่างพวกลาบ น้ำตก คนที่นี่จะเอาลาบหรือน้ำตกห่อใส่ใบผักก่อนที่จะเอาเข้าปาก แล้วก็บอกกับคนอื่นๆว่า คนไทยกินเค้ากินกันแบบนี้ (ติต่างเองซะด้วย)
ด้วยความแตกต่างด้านภาษา จึงมีอะไรน่ารักๆในเสียงที่ออกมาแล้วดันไปคล้องจองกับความหมายของอีกภาษาหนึ่งให้ขบขันกัน อย่างแม็คโดนัลด์ คุณรู้หรือไม่ว่าคนฮ่องกงเรียกว่า “มันต้องโด่” ฮ่าๆๆ
แต่ก็ใช่ว่าแฟลตจะดีเสมอไป แฟลตที่แออัดก็มีเช่นกัน สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีกิน ก็จะอยู่กันอย่างคับแคบห้องเล็กๆอยู่กันหลายคน หรือแม้กระทั้งพื้นที่แค่เตียงเดียวมีกรงล้อมรอบสำหรับบางคนนั่นคือบ้านแล้ว...
การคมนาคมของที่นี่จะเข้าถึงทุกที่ที่มีคนอยู่ ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ก็จะมีรถเมล์มารับไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ถ้าอาศัยอยู่บนภูเขาหรือที่ไกลจากตัวเมืองรถที่เข้าถึงก็เป็นรถมินิบัสแทน รถทุกคันจะเคารพกฏจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่เคยเห็นรถฝ่าไฟแดงเลยแม้แต่คันเดียว คนข้ามถนนก็เช่นกันยังต้องรอสัญญาณไฟสำหรับคนข้ามให้ขึ้นไฟเขียวก่อนจึงจะข้ามได้
จุดป้ายรถเมล์ของที่นี่จะแยกสายและแยกที่กัน เพื่อป้องกันปัญหาการจราจร ดังนั้นเวลาจะขึ้นรถเมล์จะต้องเดินหาป้ายรถที่เราจะขึ้น ซึ่งจะมีหมายเลขปรากฏอยู่ที่ป้ายป้ายนั้นและยังมีรายละเอียดบอกสถานที่ที่รถสายนั้นๆไปอีกด้วย มีทั้งภาษาจีนและอังกฤษให้ดูซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่ไม่คุ้นทางรถเมล์ส่วนใหญ่จะเป็น 2 ชั้น จะมีชั้นเดียวบ้างในสายที่ไปสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนอยู่เยอะ ใครที่มาเที่ยวฮ่องกงลองขึ้นไปนั่งชั้น 2 ด้านหน้าสุดดู แล้วคุณจะรู้ว่ามันสนุกแค่ไหน
เรื่องสภาพอากาศของที่นี่จะมี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และ ฤดูใบไม้ผลิ
พอถึงฤดูหนาวทีไร ฮ่องกงจะมีสีสรรไปด้วยแสงสี ที่ตกแต่งตามบ้านเรือนและท้องถนน เพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ ไปจนถึงวันตรุษจีน ทุกคนจะใส่ชุดกันหนาว รองเท้าบูท หมวกไหมพรม และผ้าพันคอ ซึ่งเป็นแฟนชั่นที่ดูดีทีเดียว กิจกรรมที่คนฮ่องกงมักทำรวมกันกับเพื่อนๆ ช่วงฤดูหนาวนี้คือการออกจากบ้านไปย่างบาร์บีคิวกัน เป็นกิจกรรมที่เหมาะมากกับบรรยากาศหนาวๆเช่นนี้ ได้ทานอาหารบนเตาถ่านอุ่นๆได้พูดคุยกับเพื่อนๆและครอบครัว หรือจะต้ม hot pot กินกันที่บ้านก็อบอุ่นไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีการแลกของขวัญกันในช่วงวันคริสต์มาสและวันปีใหม่อีกด้วย ดังนั้นช่วงเวลานี้จะคึกคักรื่นเริงกันทุกปี
ส่วนฤดูร้อนคนที่นี่จะนิยมหากิจกรรมเล่นบนชายหาดกัน และในที่นั่นจะเต็มไปด้วยผู้คนที่ใส่ชุดว่ายน้ำสีสันต่างๆเต็มชายหาด บ้างก็อาบแดด บ้างก็เล่นกีฬาต่างๆ คนที่นี่จะไม่ทานอาหารบนชายหาดกัน ถ้าต้องการจะทานอาหารจะมีร้านอาหารอยู่ข้างนอกชายหาด ซึ่งสามารถทานได้ที่ร้านอาหารเท่านั้น ดังนั้นชายหาดจึงไม่มีขยะ หลังจากเล่นน้ำทะเลเสร็จ ที่นี่จะไม่มีห้องน้ำไว้อาบน้ำ แต่จะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำรวมกลางแจ้ง และมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิงต่างหาก
ที่ฮ่องกงจะพายุไต้ฝุ่นทุกปี ดังนั้นคนที่จะมาเที่ยวที่นี่จำเป็นต้องเช็คสภาพอากาศให้ดี ไม่เช่นนั่นอาจจะหมดสนุกลงได้ เพราะไต้ฝุ่นนั้นจะมีระดับให้ลุ้นอยู่ทุกวินาที ยิ่งเจอพายุหมายเลข 8-10 ทั้งร้านค้าต่างๆจะปิดหรือหยุดทำการกระทันหัน รวมไปถึงการคมนาคมทุกอย่างก็จะหยุดให้บริการเช่นกัน
ฮ่องกงนับว่าเป็นประเทศที่น่าเที่ยวประเทศหนึ่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวมั่นใจได้ในความปลอดภัย ความมีระเบียบ ความสะอาด และยังเหมาะกับคนที่ชอบช้อปปิ้งเลือกซื้อของต่างๆ รวมไปถึงการได้มาสัมผัสกลิ่นอายความเป็นฮ่องกงอย่างแท้จริง “ฮ่องกงเมืองที่ไม่มีวันหลับไหล”
บทความโดย J.T.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น